จุดจบของความรัก ของหลายคู่คนที่เรารู้จัก
ซึ่งพวกเราเองไม่ต้องการเห็นจุดจบของพวกเค้าเหล่านั้น .... เลย หลายๆ ครั้งคู่เลิกกันโดยมีเหตุเป็นของตนเอง ... ลองมองอดีตของอดีตคู่รัก ... เเล้วเอามาเป็นตัวอย่างเพื่อประคองให้ชีวิตคู่
แม้ยังอยากจะเดินร่วมกัน แม้ยังอยากให้นานกว่านี้
แต่ใจลึกๆ รู้สึกทุกทีว่าไปด้วยกันไม่ไหว
ก็ที่ฝืนยิ่งทำให้กลัว อุ่นแค่ตัวแต่หนาวหัวใจ
ยิ่งเราอยากประคองมันสักเท่าใด
ยิ่งทำให้ใจเหนื่อยล้า
หยุดเอาไว้ตรงนี้ เมื่อวันนี้เหลือแต่ความเฉยชา
ถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจ
ที่รักเราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตา
ถึงแม้ว่ามันโหดร้าย ให้เราจบกันไปด้วยดี
ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ
ช็อกวงการ!!! คู่รักมาราธอน เมจิ อโณมา กับ แมน ศุภกิจ คบ 8 ปีแต่ง หลังจากนั้นอีกสองปีต่อมา คือปัจจุบันตัดสินใจเลิก!!! กันซะแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(31 มี.ค.) ทางสาว เมจิ ได้เดินทางมาออกรายการสด คุยแหกโค้ง ทางช่องเคเบิ้ล UBC พร้อมกับประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้มีการแยกทางกับ แมน สามีมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่คบกันมานานถึง 10 ปีเต็ม โดยยอมรับว่าสาเหตุที่เลิกกันมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องจริง ซึ่งหลังจากรายการออกอากาศไปแล้ว เธอก็ได้เปิดใจเรื่องเตียงหักกับสื่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"แยกทางกันมาได้สักพักนึงแล้วค่ะ สาเหตุเหมือนอย่างที่ได้ตอบไปว่า ก็
เพราะว่าเรามีความคิดนโยบายบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน แล้วก็อีกอย่างนึง
อีกสาเหตุนึงก็คือในเรื่องของเรามีความรู้สึกที่เป็นพี่เป็นน้องกันมาได้สักระยะนึง เพราะฉะนั้นว่าเราจำเป็นที่จะต้องออกมาในลักษณะที่เป็นพี่น้องดีกว่าในสถานะของสามีภรรยา"
ตามข่าวที่บอกว่าเกี่ยวกับมือที่สามล่ะ? "
มือที่สามนั้นคงไม่ได้มีอิทธิพลมากกับการที่เราเลิกกัน เพราะว่าอย่างที่เคยบอกไปว่าตัวเมจิเองเมื่อเวลามีปัญหาอะไร เมจะเป็นคนไม่ฟังคนอื่น หรือแม้ใครจะมาเล่าอะไรที่ไม่ดีให้เมจิฟัง เมจิจะไม่รับฟัง เพราะว่าคำตอบที่แท้จริงคือที่ตัวเค้า ซึ่งคุณแมนเองเค้าไม่เคยโกหกอะไรเมจิ เค้าพูดความจริงอยู่เสมอเพราะฉะนั้นเนี่ยปัญหานั้นคงเป็นเรื่องเล็กน้อยค่ะ"
เห็นบอกว่าหลังจากแต่ง พี่แมนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเลย? "อันนั้นคงเป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างไปเองมากกว่า
(เค้ายังเหมือนเดิม?) เหมือนเดิมค่ะ อย่างที่บอกว่าปัญหานั้นเนี่ย
พี่แมนเค้าเป็นคนไม่เคยปิดบัง เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย แต่ปัญหาที่เราจะต้องช่วยกันแก้มากกว่าว่าเราจะเดินทางออกแบบไหนกับสิ่งที่เราเจอ ในการดำเนินชีวิตคู่กัน"
แต่มือที่สาม เป็นสาเหตุหนึ่งใช่ไหม? "เป็นส่วนน้อยค่ะ
(มีข่าวมาว่าไม่ใช่แค่กิ๊ก แต่พี่แมนมีคนใหม่เป็นตัวเป็นตนเลย?) อันนั้นก็ตามที่เป็นข่าว แต่ความเป็นจริงไม่ใช่
(เรียกว่าเคลียร์ให้พี่แมนเลย?) ก็ อันนั้นต้องไปถามทางเค้าเองดีกว่า"
พี่แมนบอกเราเอง หรือเราถามเค้าก่อน? "แน่นอนว่าทุกอย่างที่ตอบไปแล้วว่า
พี่แมนไม่เคยโกหกอะไรเมจิ เมื่อเวลาเมจิถามอะไรเค้าจะพูดตรงๆ (แล้วเรารู้เองหรือเปล่า หรือมีคนมาบอก?) ทุกอย่างพี่แมนไม่เคยโกหก บอกแล้วค่ะ"
เสียใจไหม? "ถามว่าเสียใจไหมหรอคะ
มันมีบ้าง แต่ว่ามันจะเสียใจมากกว่าถ้าเรายังดำเนินทุกอย่างต่อไปด้วยปัญหา จริงๆ ตรงนั้นมันน่าจะเป็นเรื่องที่เสียใจมากกว่านะคะ เพราะฉะนั้นที่เมจิบอกว่าสิ่งแรกที่เราทำคือเราต้องทำอะไรที่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่ เหมือนที่เราดำเนินมาทั้งคู่เนี่ยตลอดเวลา
10 ปีที่ผ่านมาอะไรที่เป็นความสุขของเราทั้งสองคน เรายินดีร่วมมือกันได้ เพราะฉะนั้นแล้วตรงนี้เนี่ยความเสียใจคือถ้าเราอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขนั่นคือความเสียใจมากกว่า เพราะฉะนั้นเนี่ยสิ่งที่ทำให้ความสุขก็คือเราตัดสินใจแยกทาง คือทางออกที่ดีค่ะ"
ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเกิดขึ้นก่อน หรือหลังจากที่มีอีกคนเข้ามา? "เปลี่ยนไป แน่นอนชีวิตคู่มันเป็นเรื่องปกติว่าถ้าเข้ามาในเรื่องแบบนี้เนี่ยทุกคู่มันต้องเป็นปัญหาแน่นอน แต่ว่าอย่างที่บอกไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่เราสามารถแก้ได้แล้วก็หาทางออกด้วยกันได้ทั้งคู่
แต่ปัญหาส่วนตัวมากกว่าอันนี้ปัญหาใหญ่กว่า"
มีทะเลาะกันถึงขั้นรุนแรงไหม? "เป็นเรื่องปกติจ๊ะ ของความรุนแรงของชีวิตคู่สามี
ก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องปกติ จริงๆ เราทะเลาะรุนแรงกันมาโดยตลอดเลยนะ (แต่ไม่ได้ถึงขั้นมีลงไม้ลงมือ?)ไม่มี เรื่องนั้นไม่มีเด็ดขาดเลยคุณแมนไม่ใช่เป็นคนนิสัยแบบนั้น"
ดูเหมือนเราทำใจได้? "
การทำใจอย่างที่บอกเราใช้สติปัญญาที่เราเคยฝึกฝน ปฏิบัติธรรมะเข้ามาตรงนี้ช่วยได้เยอะมาก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นที่ใจ มันก็ต้องจบที่ใจของเรา เพราะฉะนั้นเนี่ยเราอย่าจมอยู่กับความทุกข์ให้มันนานมาก เพราะชีวิตของเรายังต้องก้าวหน้าต่อไป มีอะไรให้เราต้องดูแลอีกเยอะ มีหลายคนที่เราจะต้องเป็นห่วงอย่างเช่นคุณพ่อคุณแม่อะไรต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้นเราไม่มีเวลาที่จะต้องมานั่งจมความเศร้าอีกนานต่อไป"
ทุกวันนี้ยังติดต่อกันอยู่ไหม? "
แน่นอนค่ะ คุยกันอยู่เหมือนเดิมค่ะ (เรื่องธุรกิจล่ะ?)ธุรกิจที่ทำร่วมกันก็พี่แมนเค้าคงเป็นที่ปรึกษาที่ดี มีอะไรก็เป็นที่ปรึกษา เพราะว่าหนึ่งเราเริ่มต้นด้วยกันมาในลักษณะของการทำงาน เค้าอยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน เพราะฉะนั้นเนี่ยมีอะไรต้องปรึกษากันแน่นอน เป็นเหมือนพันธมิตร"
ตอนนี้มองอนาคตยังไงบ้าง? "อนาคตของเมจิคือหนึ่งอยากจะก้าวหน้าในเรื่องของธุรกิจการงาน สองก็คืออยากจะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง ซึ่งทุกคนก็เข้าใจว่าเอ๊ทำไมแต่งงานแล้วไม่รับงาน ซึ่งจริงๆ ทุกคนก็เข้าใจไปกันผิด คิดว่าเมจิจะไปเป็นแม่บ้าน จะไปมีลูกแต่จริงๆ ไม่เลย เมจิอยู่ในวงการนี้ตั้งแต่อายุ 15 เมจิก็ยังรักวงการนี้อยู่เหมือนเดิม แล้วก็อยากจะทำงานในวงการอันนี้ประกอบกับทำธุรกิจของตัวเองไปด้วยในตัวมากกว่า"
ที่ไม่มีลูกนี่ตั้งใจหรือเปล่า? "จุดเริ่มต้นการทำงานแน่นอนว่าเรา
ต้องเมคมันนี่กันก่อน ให้ความรากฐานให้รากฐานของเรามั่นคงก่อนค่ะ"
ถอยห่างกันมาระยะหนึ่งแล้ว ทำไมเพิ่งจะมาบอกสื่อ? "จริงๆ เมจิไม่ได้เพิ่งจะมาบอกนะคะ ปกติเวลาไปไหนเมจิก็จะมีแมนตลอดเลยใช่ไหมคะ ติดกันเป็นปาท่องโก๋แต่คราวนี้เมจิลุยเดี่ยว แมนลุยเดี่ยวตลอด เพราะฉะนั้นคนก็ต้องถามแน่นอนว่าอ้าวแมนไปไหน เราก็จะตอบว่าเราแยกทางกัน เพราะเมจิคงไม่มีแรงที่จะไปนั่งบอกทุกๆ คนว่าเราแยกทางกัน จนวันนี้น้องๆ พี่ๆ มาถามเมจิ เมจิก็เลยบอก แต่เมจิไม่ได้เลือกวัน ไม่ได้เลือกว่าจะบอกตอนไหน ใครมาก่อนบอกก่อน
ใครถามก็บอก ใครไม่ได้ถามก็ไม่ได้บอกอะไร ให้เค้ารับรู้ของเค้าไปเอง เพราะว่าเรื่องแบบนี้คงเป็นอะไรที่ไม่น่าป่าวประกาศให้มันดังมากนัก"
จะมีวันไหนที่มาออกงานคู่กันอีกไหม? "ถ้ามีวันนั้นได้ก็ยินดีค่ะ
(แล้วจะมีโอกาสกลับมาคบกันเหมือนเดิมไหม?)ถ้าคบกันในฐานะพี่น้อง ใช่ แต่ฐานะของสามี-ภรรยา ไม่ใช่ค่ะ"
ถ้าย้อนกลับไปได้ จะไปแก้ไขอะไรไหม? "
เมจิคิดว่าไม่อยากแก้ไขอะไร เพราะที่ผ่านมาเมคิดว่าเรามองว่าเป็นเรื่องที่ดี พี่แมนได้ให้แต่สิ่งดีๆ เมจิก็ได้ให้เค้าในสิ่งที่ดีๆ เมจิจะพยายามจะจดจำแต่สิ่งดีๆ ที่มีด้วยกันมาเสมอตลอดเวลา 10 ปี ที่ผ่านมาเราเคยมีทุกข์ เราเคยมีสุขกันมาด้วยกันตลอด เราไม่เคยทอดทิ้งกันในยามที่ทุกคนมีน้ำตา เพราะฉะนั้นเนี่ยวันนี้ที่เมจิเคยบอกว่า ถ้าเมจิรักเค้า เมจิก็จะจำแต่สิ่งดีๆ ที่เค้ามีให้เมจิ และเมจิก็ได้ให้เค้าอยู่ตลอดเสมอมา วันนี้เราออกกันด้วยมิตรภาพ
เรารักกันด้วยมิตรภาพ เราต้องจบลงด้วยมิตรภาพ"
มีอะไรอยากจะพูดกับพี่แมนไหม? "เมจิอยากจะให้พี่แมนทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ทุกอย่างที่มันผิดพลาดมาก็ถือว่าเราลืมมันไป อย่างที่บอกว่าเราสองคนมีการให้อภัยซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เมจิผิดพลาดอะไรพี่แมนก็ให้อภัยเมจิ พี่แมนผิดพลาดอะไรเมจิก็ให้อภัยพี่แมน นั่นคือสิ่งที่เราสองคนยึดมั่นกันโดยตลอด พี่แมนฝันอะไรขอให้พี่แมนไปให้ถึง และขอให้ใช้สติสัมปะชัญญะที่เคยฝึกฝนและทำบุญกุศลมา เอามาใช้ให้เต็มที่ แล้วก็ขอให้พี่แมนมีความเจริญก้าวหน้า ในทุกๆ เรื่องค่ะ"
ถ้าพี่แมนมีครอบครัวใหม่? "
ด้วยความยินดี เป็นเรื่องปกติค่ะ (แล้วถ้าเค้ามาง้อ?)เรื่องนั้นก็คงเป็นเรื่องของเวลาดีกว่า ที่มันจะบอกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้เมจิคงยังตอบอะไรไม่ได้นอกจากจะดูแลตัวเองในเรื่องของการพัฒนาตัวเองในเรื่องของการทำงาน ดูแลเอาใจใส่ครอบครัว แล้วก็หาอะไรเรียนรู้เพิ่มเติมมากกว่า"
พร้อมเปิดใจให้รักครั้งใหม่ไหม? "ความรักเป็นเรื่องที่ดีค่ะ
(แล้วมีใครเข้ามาหรือยัง?)เพิ่งแยกทาง เดี๋ยวจะเร็วเกินไปนะคะ ยังค่ะ แต่ความรักเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน อย่างที่เมจิเคยพูดว่าความรักถ้าเรามองให้มีความสุขมันก็มีความสุข แต่ถ้าเรามองให้มันเป็นเรื่องที่มันเลวร้ายมันทุกข์ มันก็จะทุกข์
เพราะฉะนั้นว่าอะไรก็ตามเมื่อเรามีความรัก จดจำแต่สิ่งที่ดีๆ มันจะทำให้เราเข้มแข็ง ถามว่าใช้เวลาไหม ใช่ แต่ถามว่าต้องทำไหม ต้องทำแน่นอน"
ขอขอบคุณข้อมูล : www.thairath.co.th
"ตอน นี้ก็คงต้องดูแลรักษาใจของตัวเองมากขึ้น รักตัวเองให้มากขึ้น พัฒนาจิตใจตัวเองให้มากขึ้น ที่สำคัญเมจิก็ยังทำบุญทำกุศลเหมือนเดิม ทำจิตใจตัวเองให้เบาสบายอย่างที่ตัวเองเคยทำมา สำหรับ
หลายคู่ที่มีปัญหาแล้วอยากที่จะเข้มแข็ง เมจิมองว่า เราเองก็เป็นผู้หญิงปกติธรรมดาคนนึงไป แต่เมื่อไหร่ที่เรามีความเศร้า จงหาคุณค่าของตัวเองให้เจอ ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง"
สาว เมจิ กล่าวต่อว่า "
ใครที่มาทำให้เราเสียใจ ไม่ได้แปลว่าคุณจะมีคุณค่าลดน้อยลง ฉะนั้นเมื่อเวลาคุณเสียใจ คุณอย่าทำร้ายตัวเองให้นาน เมื่อวันนึงร้องไห้ ก็ร้องไห้ให้เต็มที่ แล้วลุกขึ้นมาทำตัวเองให้ดีที่สุด และอย่าลืมว่าเมื่อวันที่ทำตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว อย่าย้อนกลับไปในอดีตที่ตัวเองเคยมีความทุกข์ ไม่อย่างนั้นเราจะมีแต่ความเจ็บเหมือนเดิม ปัจจุบันมันทำให้เรามีอนาคตที่สดใส มองตัวเองไปข้างหน้า อย่าย้อนกลับไปในอดีตอีก" เมจิ กล่าวในที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูล :www.kapook.com
แมน โต้มี มือที่สาม เผยเลิก เมจิ เพราะไม่มีความสุข
"
มัน เป็นปัญหาของคนที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว เราเป็นแฟนกันมา
7 ปี ศึกษาเรียนรู้ในสิ่งที่ดีกันมาตลอด บางครั้งมีปัญหาก็ร่วมกันประคับประคอง ทุกอย่างมันเป็นสเต็ปไป ผมก็ยอมรับว่าเรามีการศึกษากันก่อนแต่งงาน และใช้ชีวิตคู่แต่งงานประมาณ 3 ปี รวมแล้วก็ 10 ปี
มันเป็นปัญหาที่สะสมเอาไว้หลายเรื่อง แล้วเราไม่เคลียร์ ปล่อยผ่าน คิดว่าลืมๆมันไปซะ หาเรื่องดีๆมาคุยกันดีกว่า เก็บไว้ทั้งเค้าและเรามันก็เกิดการอิ่มตัว ก็มาคิดว่าเราอยู่กันเพราะว่าอะไร หน้าที่รึเปล่า เป็นตัวอย่างของสังคมรึเปล่า การแยกจากกันจะดีกว่ามั้ย ต่างคนต่างไปมีทางของตัวเอง จะได้ไม่ต้องกังวล"
คนมองเลิกกันเพราะมีมือที่ 3? "มันเป็นความคิดพื้นฐาน พอเลิกก็ต้องคิดมีใหม่รึเปล่า เรามีปัญหาชีวิตคู่ทั่วไปกันอยู่นานแล้ว ทะเลาะกันตลอด แต่มันไม่ได้เป็นข่าว ไม่ได้บอกใคร คนก็มองว่าเราเป็นคู่รักตัวอย่าง ก็ถูกจับตามองอีก"
รักถึงทางตันเลยตัดสินใจคุยกัน? "ครับ เราแยกจากกัน ดีต่อกันเป็นกัลยาณมิตร มันเป็นการ แตกแยกแต่ไม่แตกหัก เพราะ 10 กว่าปีที่คบกันมา ก็มีเรื่องราวมากมาย"
ความ รู้สึกที่มีต่อเมจิ ณ วันนี้? "
ผมกับเค้ามันเป็นหลายสถานะ น้อง แฟน พี่ เพื่อน ให้ความช่วยเหลือได้ทุกอย่าง การแยกกันไม่ใช่เรื่องร้าย ทุกวันนี้ก็ยังให้คำปรึกษากันได้"
มีข่าวแมนพาสาวไปดูบอล? "มันบังเอิญที่มีคนไปจุดประกายเรื่องผมพาใครไปดูฟุตบอล แล้วก็ไปถามเค้า
คือมันเป็นความรู้สึกไม่ชุ่มชื่นหัวใจมาสักพักแล้ว"
นักศึกษาสาวใคร หรอ? "ใครเหรอ นักศึกษาชายคงใช่ (หัวเราะ) ไม่มีครับ ก็เข้าใจ คนต้องมองผู้ชายเจ้าชู้มีคนอื่น มันเป็นความคิดพื้นฐานชั้นเดียว แต่สำหรับเรา เมื่อไหร่ที่เราอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ทุกข์ใจ ไม่ชุ่มชื่นหัวใจ แยกกันไปทำให้ตัวเองมีความสุขดีกว่า ถ้าวันข้างหน้ามีลูกแล้วเกิดปัญหานี้จะยุ่ง หลายคนถามทำไมผมไม่มีลูก งานยุ่งด้วยแล้วเราก็ยังไม่พร้อม ส่วนมือที่ 3 มันไม่ใช่สาเหตุ
แต่มันเป็นความรู้สึกต่างๆนานามากกว่า ชีวิตคู่เจอกันทุกวัน ทุกอย่างมันมีปัญหาได้หมด"
เรื่องหย่า? "ไม่ได้จด ทะเบียน ก็แค่บอกเลิกกันทางสังคม สถานภาพก็โสด".
ขอขอบคุณข้อมูล :www.hunsa.com
เลิก 'เมจิ' ด้วยดี 'แมน' โต้ซุกนศ.
ชีวิตคู่ค่อนข้างมีปัญหากันเยอะแยะ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็เป็นปัญหาได้หมด แต่ที่ผ่านมา เราก็
พยายามประคับประคอง ประนีประนอมกันมาตลอด แต่พอถึงวันหนึ่ง
คิดว่าในเมื่อมันสะสางกันไม่หมด ก็
ควรที่จะแยกกันอยู่ โดยที่เราเองก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกัน ไม่ได้พูดไม่ดีต่อกัน แต่เรายังเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันได้ มีอะไรก็ยังปรึกษากันได้ ส่วนที่ใครว่าแต่งงานไปแล้วผมไม่เหมือนเดิม ก็แล้วแต่คนจะมอง เพราะคงไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนฟังได้ ก็แล้วแต่จะพิจารณากัน
ผมไม่อยากใช้คำว่าเสียดายที่ต้องเลิกกัน เพราะมันก็ถือว่าเราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผมอาจจะเปิดหนังสือเล่มหนึ่งนาน แต่เมื่อผมอ่านมันจบแล้ว ผมก็วางมันลง ซึ่งเมจิก็เช่นกัน" แมนแจกแจง
ส่วนเรื่องที่ แมน ซุกกิ๊กเป็นนักศึกษานั้น เจ้าตัวหัวเราะก่อนจะกล่าวว่า หากมีกิ๊กเป็นนักศึกษา คงจะไม่เหมาะ เพราะนักศึกษาเด็กเกินไปสำหรับเขา
"มัน เป็นเรื่องที่ลือกันไปเองมากกว่า อาจจะมีนักศึกษาของใครในทีมฟุตบอลหรือเปล่า คงไม่ใช่หรอก เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นว่าผมเป็นวัวแก่ไป เรื่องมือที่สามคงไม่ใช่ปัญหาทั้งผมและเมจิ แต่มันเป็นปัญหาด้านอื่นมากกว่า ส่วนอนาคตเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ผมคงตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้เราสองคนคิดว่า แยกกันอยู่โดยดี เคลียร์กันลงตัว ต่างคนต่างใช้ชีวิตอิสระกันน่าจะดีกว่า" แมนแจกแจง
สำหรับเรื่องจด ทะเบียนหย่านั้น แมน เผยว่าเขาและอดีตภรรยา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันตั้งแต่แรก เลยไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อถามว่าตัดสินใจนานหรือไม่ กว่าที่จะออกมายอมรับให้สังคมรับรู้ถึงการเลิกกันครั้งนี้ ได้รับคำตอบ
"การ ตัดสินใจขึ้นอยู่กับคนสองคน ถ้าเมจิพร้อมที่จะบอกกับสังคมแล้ว ผมเป็นผู้ชาย ก็ต้องให้เกียรติเขา ถามว่าเสียดายไหม คือถ้าเราอยู่ด้วยกัน แล้วต้องฝืนใจ อึดอัดใจ มันก็คงไม่ดี เหมือนดอกไม้ที่มันแห้ง ไม่ชุ่มชื้น ฝืนไปมันก็อาจไม่ดีขึ้น ส่วนตัวผมไม่ได้เข็ด เพราะถ้าเข็ดก็แปลว่าอนาคตจะไม่มีครอบครัวอีก ตอนนี้ก็ยังเปิดใจอยู่ ผมไม่ปิดตัวเอง ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ตอนนี้ก็ยอมรับว่ามีคนเข้ามา แต่ยังไม่คิดว่าต้องสร้างครอบครัวใหม่ทันที" แมนกล่าวสรุป
ขอขอบคุณข้อมูล :www.kapook.com
ความคิดเห็นส่วนตัว
ผูกเสี่ยวชอบทุกคำพูดของคุณโมจิ เพราะคำำพูดคุณโมจินั้นมันแฝงไปด้วยพลัง และหลายคำพูดทำให้ ผูกเสี่ยว นึกไปถึง ... บางคนชอบพูดว่า ไม่อยากรับรู้อะไร จากคำพูดของคุณโมจิ อย่าย้อนกลับไปในอดีตที่ตัวเองเคยมีความทุกข์ ไม่อย่างนั้นเราจะมีแต่ความเจ็บเหมือนเดิม ปัจจุบันมันทำให้เรามีอนาคตที่สดใส มองตัวเองไปข้างหน้า อย่าย้อนกลับไปในอดีตอีก ทำให้เรารู้ได้เลยว่า ... เรื่องบางเรื่องเราไม่อยากที่จะรับรู้มัน เเต่เราเลือกที่จดจำมัน เเล้วก็ปล่อยให้อดีตมาสร้างปมความเจ็บปวดให้เราไม่หาย เพราะเราเลือกที่จะรับรู้อย่างไม่ลืม เเล้วถือเอาเป็นอคติ เเละิทิฐิในใจเรา นั่นเอง
จากมุมมองของคุณเเมน ที่กล่าวว่า ผมอาจจะเปิดหนังสือเล่มหนึ่งนาน แต่เมื่อผมอ่านมันจบแล้ว ผมก็วางมันลง ซึ่งเมจิก็เช่นกัน ทำให้เราเห็นภาพเลย .... ถ้าการที่เราจะใช้ีชีวิตคู่กับใครสักคนหนึ่งให้ยาวนานนั้น เราต้องเป็นเสมือนหนังสือที่อ่านไม่รู้จบ ต้องมีหลายๆ ภาค ... จนกว่าหนังสือเล่มหนึ่งเล่มนั้นจะกลายเป็นตำนานให้คนที่เปิดอ่านจดจำเเละอยากเปิดอ่านโดยไม่ีรู้เบื่อ
ความรักของคู่นี้เรายอมรับเราชื่นชมมาก เเละเคยคิดที่อยากมีชีวิตคู่ให้เหมือนคู่นี้ ... ถึง ณ เวลานี้ ถึงคู่นี้ต้องเลิกกัน เราก็ได้เเต่หวังให้เค้าทั้งคู่ ได้พบเจอกับเส้นทางสายใหม่ที่ทำให้ทั้งคู่ต่างได้พบกับความสุขอีกครั้ง ...หรือไม่... วันนึงที่ทั้งคู่ต่างคนต่างไม่มีใคร ... วันนั้นทั้งคู่ก็จะกับมาบรรจบกันอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูล : www.komchadluek.net
แมน ศุภกิจ - เมจิ อโนมา ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตรักในอดีตผ่าน MV 'นาฬิกาหัวใจ'